เอวหนา ลงพุง
อันตรายกว่าใส่เสื้อผ้าไม่สวย..
เพราะคุณอาจกำลังเกิดภาวะล้มเหลวของกระบวนการจัดการสารอาหารภายในหลอดเลือด หรือ Metabolic Syndrome
Metabolic Syndrome นำไปสู่การเกิดโรคเรื้อรังที่ตามมา มีอะไรบ้าง?
ความดัน เบาหวาน ไขมัน ซึ่งเป็นสาเหตุการก่อให้เกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ โรคไต อัมพฤกษ์อัมพาต ตามมาได้ที่เราจะคุ้นเคยกับการได้ยินเกี่ยวกับการเกิดโรคกลุ่ม NCDs หรือบางคนเรียกกลุ่มโรคแพคเกจ เบาหวาน ความดัน ไขมัน ความดันโลหิตสูง หัวใจ และโรคไตโรคไหนเริ่มก่อน ไม่นานก็เรียกเพื่อนตามๆมา ว่าสาเหตุหลักมาจากพันธุกรรม บวกกับพฤติกรรมการกิน การออกกำลังกายและการใช้ชีวิต
แต่ในสภาวะปัจจุบันของคนส่วนมากพบการเกิดโรค NCDs ได้แม้ไม่มีประวัติของคนในครอบครัวเป็นโรคเรื้อรังมาก่อน แต่สาเหตุเกิดจากการเกิดภาวะ Metabolic Syndromeโดยไม่ทันได้รู้ตัวจากวิถีการใช้ชีวิตการกิน การนอนหลับพักผ่อนไม่เป็นเวลา ภาวะความเครียด นอนดึก ไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย เป็นต้นค่ะ
จะป้องกันการเกิด Metabolic Syndrome จะทำได้อย่างไร?
ก่อนอื่นอยากให้เข้าใจกระบวน Metabolism ซึ่งเป็นกระบวนการปกติของร่างกาย นั่นคือการนำเอาสารอาหารจากหลอดเลือด ไปใช้ประโยชน์ในเซลล์ อยากให้มองเห็นภาพนี้ค่ะว่า เวลาที่เราทานอาหาร เครื่องดื่มอะไรต่างๆเข้าไปในร่างกาย เริ่มจากการเคี้ยว กลื่นเข้าไปย่อยต่อในกระเพาะอาหาร เริ่มกระบวนการดูดซึมสารอาหารเข้าหลอดเลือดบริเวณกระเพาะอาหารและลำไส้เล็ก ในรูปแบบสารเคมีต่างๆ น้ำตาล ไขมัน เกลือแร่ โดยกระบวนการ Metabolism จะเข้าไปจัดการสารอาหารในหลอดเลือดให้เปลี่ยนเป็นพลังงานให้กับร่างกายและในกระบวนการ Metabolism เองก็จะเกิดของเสียที่ตามมาด้วย
จะรู้ได้อย่างไร? ว่าเสี่ยงต่อภาวะเมแทบอลิกซินโดรม
สาเหตุหลักๆ ของคนที่มีแนวโน้มในการเกิดภาวะเมตาบอลิกซินโดรม ก็คือ อ้วนลงพุง รอบเอวหนา และภาวะการดื้อต่ออินซูลินจะพบมากในคนอ้วนลงพุง หรือได้รับยา, ฮอร์โมนบางชนิดค่ะ
ในที่นี้ขอใช้เกณฑ์ของ The National Cholesterol Education Program Adult Treatment Panel III (NCEP ATP III) (2005)
ตามโรงพยาบาลกรุงเทพได้เขียนบทความเผยแพร่ลงในเว็บไซต์ของโรงพยาบาลเอง
เพื่อให้ง่ายต่อการประเมิน
โดยต้องมีความผิดปกติ 3 ใน 5 ข้อ ได้แก่
1.ความยาวรอบเอว
ชาย ≥ 36 นิ้ว = 90 เซนติเมตร
และหญิง ≥ 32 นิ้ว = 80 เซนติเมตร
2.ระดับน้ำตาลหลังอดอาหาร ≥ 100 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร หรือได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคเบาหวาน
3.ระดับไตรกลีเซอไรด์ในเลือด ≥ 150 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร
4.ระดับ HDL คอเลสเตอรอล < 40 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตรในเพศชาย และ < 50 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตรในเพศหญิง
5.ระดับความดันโลหิต ≥ 130/85 มิลลิเมตรปรอท หรือได้รับยารักษาภาวะความดันโลหิตสูง
ความน่ากลัวของโรค เมแทบอลิกซินโดรม
กล่าวคือ เป็นโรคที่เป็นภัยเงียบ ไม่มีอาการบ่งชี้ล่วงหน้า จะรู้ตัวก็ต่อเมื่อมีอาการของหลอดเลือดอุดตันแล้ว ซึ่งเป็นช่วงที่มีอาการของโรคร้ายแรงอย่างใดอย่างหนึ่งเกิดขึ้น เช่น หลอดเลือดสมองอุดตัน อัมพฤกษ์ หัวใจวาย หรืออาการผิดปกติอื่นๆ ตามแต่ตำแหน่งที่หลอดเลือดอุดตัน
ภาวะเมแทบอลิกซินโดรม
สามารถป้องกันตัวเองได้ เริ่มที่ลดความเสี่ยงของการเกิดโรค โดยการปรับพฤติกรรม
ที่ก่อให้เกิดโรคอ้วนลงพุง อันดับต้นๆได้
แนะนำให้ทำเลยค่ะ โดยเริ่มที่
1.เรื่องการกินอาหาร
เลี่ยงหวาน มัน เค็ม เพิ่มผัก ผลไม้หลากหลายสี เน้นกากใยสูงในมื้ออาหาร
2.การออกกำลังกาย
ช่วยเสริม เพิ่มกำลัง Metabolism กระบวนเตาเผาอาหารและการจัดการสารอาหารในหลอดเลือดของร่างกาย
4.เลี่ยงการสูบบุหรี่ดื่มสุรา
5.การตรวจสุขภาพประจำปีค่ะ
การป้องกัน ย่อมดีกว่ามานั่งรักษาอาการเจ็บป่วยเรื้อรังที่หลังนะคะ
เริ่มที่วันนี้ตัดสินใจเข้ารับผิดชอบสุขภาพร่างกายของตัวเองก่อนได้เลยค่ะ