Marketing Tools

เขียนบทความ

แปลงความรู้สู่รายได้: 5 ตลาดดิจิทัลที่คุณควรรู้

เขียนบทความ

แปลงความรู้สู่รายได้: 5 ตลาดดิจิทัลที่คุณควรรู้

คุณเคยคิดไหมว่าสิ่งที่คุณรู้ สิ่งที่คุณถนัด ประสบการณ์ที่คุณสั่งสม และสิ่งที่คุณรักที่จะทำ สามารถแปลงเป็นรายได้ได้อย่างไร? ในโลกปัจจุบันที่เต็มไปด้วยโอกาสทางธุรกิจออนไลน์ ความรู้ ความถนัด ประสบการณ์ และสิ่งที่คุณรักสามารถกลายเป็นแหล่งรายได้ที่มั่นคงได้ โดยไม่จำเป็นต้องลงทุนมากมาย เพียงแค่คุณรู้จักวิธีการนำเสนอและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่เหมาะสม วันนี้จินจะพาเพื่อนๆพี่ๆน้องๆมาดูกันว่า  เราสามารถสร้างรายได้จากความรู้ของเราได้อย่างไรบ้าง จินจะพาไปหาคำตอบกันค่ะ!

ในบทความนี้ จินจะพาคุณไปรู้จักกับ 5 ตลาดดิจิทัลที่จะช่วยให้คุณสามารถนำความรู้และความสามารถของคุณมาสร้างรายได้ได้อย่างหลากหลาย พร้อมทั้งแนะนำวิธีการเริ่มต้นที่ทำได้ง่ายๆ แม้คุณจะเป็นมือใหม่ในวงการก็ตาม พร้อมแล้วเราไปทำความรู้จักกับ ตลาดดิจิตัลกันได้เลยค่ะ

เขียนบทความ

ตลาดดิจิตัล 5 ตลาดหลักที่น่าสนใจ

ebook

1. ตลาดคนชอบอ่าน: อีบุ๊ค (E-book) คือคำตอบ

## อีบุ๊คคืออะไร?

อีบุ๊ค หรือหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ คือไฟล์ดิจิทัลที่สามารถอ่านได้บนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ เช่น คอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต หรือสมาร์ทโฟน โดยทั่วไปมักอยู่ในรูปแบบไฟล์ PDF ซึ่งเป็นที่นิยมเพราะเปิดอ่านได้ง่ายและรักษารูปแบบการจัดหน้าได้ดี

### ทำไมต้องเขียนอีบุ๊ค?

  1. **ต้นทุนต่ำ**: ไม่ต้องพิมพ์เป็นเล่ม ประหยัดค่าใช้จ่าย
  2. **เข้าถึงง่าย**: ผู้อ่านสามารถดาวน์โหลดได้ทันทีที่ซื้อ
  3. **แก้ไขง่าย**: สามารถอัปเดตเนื้อหาได้ตลอดเวลา
  4. **ขยายฐานลูกค้า**: เข้าถึงผู้อ่านได้ทั่วโลก

### วิธีเริ่มต้นเขียนและขายอีบุ๊ค

  1. **เลือกหัวข้อ**: นำความรู้และประสบการณ์ของคุณมาเขียน
  2. **วางโครงเรื่อง**: จัดระเบียบเนื้อหาให้น่าอ่านและเข้าใจง่าย
  3. **เขียนเนื้อหา**: ใช้ภาษาที่เข้าใจง่าย ตรงประเด็น
  4. **ออกแบบและจัดรูปเล่ม**: สร้างหน้าปกที่ดึงดูด จัดวางเนื้อหาให้น่าอ่าน
  5. **แปลงเป็นไฟล์ PDF**: ใช้โปรแกรมเช่น Microsoft Word หรือ Adobe Acrobat,Foxit ฯลฯ
  6. **เลือกช่องทางขาย**:

– ขายเองผ่านโซเชียลมีเดีย

– ฝากขายบนแพลตฟอร์มออนไลน์ เช่น Amazon Kindle, Ookbee และฯลฯ

– สร้างเว็บไซต์ของตัวเองเพื่อขาย

audio book

2.ตลาดคนชอบฟัง: ออดิโอบุ๊ค (Audiobook) เสียงสร้างเงิน

### ทำไมออดิโอบุ๊คถึงมาแรง?

– **ความสะดวก**: ฟังได้ทุกที่ทุกเวลา แม้ขณะทำกิจกรรมอื่น

– **ประหยัดเวลา**: เหมาะสำหรับคนที่ไม่มีเวลาอ่านหนังสือ

– **อารมณ์และความรู้สึก**: การฟังเสียงสามารถถ่ายทอดอารมณ์ได้ดีกว่าการอ่าน

### วิธีสร้างออดิโอบุ๊ค

  1. **เตรียมบทพูด**: อาจใช้เนื้อหาจากอีบุ๊คที่มีอยู่แล้ว หรือเขียนขึ้นใหม่
  2. **เตรียมอุปกรณ์**: ไมโครโฟนคุณภาพดี และโปรแกรมบันทึกเสียง
  3. **ฝึกการอ่าน**: ฝึกออกเสียงให้ชัดเจน มีจังหวะการพูดที่น่าฟัง
  4. **บันทึกเสียง**: อัดในห้องที่เงียบ ไม่มีเสียงรบกวน
  5. **ตัดต่อและปรับแต่ง**: ใช้โปรแกรมตัดต่อเสียงเพื่อให้ได้คุณภาพที่ดี
  6. **แปลงไฟล์**: เปลี่ยนเป็นไฟล์เสียงที่ใช้งานได้ทั่วไป เช่น MP3

 

### ช่องทางการขาย

– แพลตฟอร์มออดิโอบุ๊ค เช่น Ookbee, marketplace ฯลฯ

– เว็บไซต์ส่วนตัว

– แอพพลิเคชันมือถือ

– CD หรือ USB (สำหรับลูกค้าบางกลุ่ม)

คอร์สออนไลน์

3.ตลาดคนชอบดูและฟัง: คอร์สออนไลน์ สอนง่าย เรียนสนุก(Online Course)

สำหรับผู้ที่ต้องการประสบการณ์การเรียนรู้แบบครบวงจร คอร์สออนไลน์เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยม คุณสามารถนำความรู้ของคุณมาสร้างเป็นบทเรียนวิดีโอ พร้อมกับเอกสารประกอบและแบบฝึกหัดต่างๆได้

### ทำไมคอร์สออนไลน์ถึงเป็นที่นิยม?

– **ยืดหยุ่น**: ผู้เรียนสามารถเรียนได้ทุกที่ทุกเวลา

– **ประหยัด**: ไม่ต้องเดินทาง ประหยัดค่าใช้จ่าย

– **หลากหลาย**: มีหลักสูตรให้เลือกมากมาย

– **ทบทวนได้**: สามารถดูซ้ำได้ไม่จำกัด

 

### วิธีสร้างคอร์สออนไลน์

  1. **กำหนดหัวข้อ**: เลือกเรื่องที่คุณเชี่ยวชาญและมีความต้องการในตลาด
  2. **วางโครงสร้างหลักสูตร**: แบ่งเนื้อหาเป็นบทเรียนย่อยๆ
  3. **เตรียมสื่อการสอน**: สไลด์ เอกสารประกอบ แบบฝึกหัด
  4. **ถ่ายวิดีโอ**: ใช้กล้องคุณภาพดี เน้นแสงและเสียงที่ชัดเจน
  5. **ตัดต่อวิดีโอ**: ใช้โปรแกรมตัดต่อเพื่อให้วิดีโอน่าสนใจ
  6. **สร้างระบบการเรียน**: อาจใช้แพลตฟอร์มสำเร็จรูปหรือสร้างเว็บไซต์เอง

 

### ช่องทางการขายคอร์สออนไลน์

  1. **แพลตฟอร์มคอร์สออนไลน์**: เช่น Udemy, Skillshare และฯลฯ
  2. **เฟซบุ๊กกลุ่มปิด**: สร้างห้องเรียนออนไลน์ง่ายๆ
  3. **เว็บไซต์ส่วนตัว**: ใช้ระบบ LMS (Learning Management System)
  4. **YouTube**: สร้างรายได้จากโฆษณาและการสมัครสมาชิก
  5. **TikTok**: สร้างซีรีส์สอนสั้นๆ แล้วลิงก์ไปยังคอร์สเต็ม
digital product

4.ตลาดคนชอบความเป็นส่วนตัว: โค้ชชิ่งส่วนตัว ใกล้ชิด เข้าถึงง่าย

(One-on-One Coaching)

### ทำไมต้องเป็นโค้ชส่วนตัว?

– **ปรับแต่งได้**: สามารถปรับการสอนให้เหมาะกับแต่ละบุคคล

– **ผลลัพธ์รวดเร็ว**: ผู้เรียนได้รับคำแนะนำโดยตรง ทำให้พัฒนาได้เร็ว

– **สร้างความสัมพันธ์**: เกิดความไว้วางใจระหว่างโค้ชและผู้เรียน

– **ราคาสูง**: สามารถตั้งราคาได้สูงกว่าการสอนกลุ่ม

### วิธีเริ่มต้นเป็นโค้ชส่วนตัว

  1. **กำหนดความเชี่ยวชาญ**: เลือกหัวข้อที่คุณมีความรู้ลึกซึ้ง
  2. **สร้างโปรแกรมการโค้ช**: ออกแบบแผนการสอนที่ยืดหยุ่นได้
  3. **กำหนดรูปแบบการโค้ช**: เช่น การคุยผ่านวิดีโอคอล, การพบหน้า, หรือการแชทออนไลน์
  4. **ตั้งราคา**: พิจารณาจากประสบการณ์และความเชี่ยวชาญของคุณ
  5. **สร้างสัญญาหรือข้อตกลง**: เพื่อความชัดเจนในการทำงานร่วมกัน

 

### ช่องทางการหาลูกค้าโค้ชชิ่งส่วนตัว

– โซเชียลมีเดียส่วนตัว (LinkedIn, Facebook, Instagram)

– เว็บไซต์ส่วนตัว

– การบอกต่อจากลูกค้าเดิม

– แพลตฟอร์ม Market place ฯลฯ

5.ตลาดคนชอบสังคม: สัมมนาและเวิร์คช็อป สร้างคอนเนคชั่น เพิ่มมูลค่า

### ทำไมสัมมนาและเวิร์คช็อปยังคงได้รับความนิยม?

– **การมีปฏิสัมพันธ์**: ผู้เข้าร่วมได้พบปะและแลกเปลี่ยนประสบการณ์

– **การเรียนรู้แบบเข้มข้น**: เรียนรู้ได้มากในเวลาอันสั้น

– **สร้างเครือข่าย**: โอกาสในการสร้างคอนเนคชั่นทางธุรกิจ

– **ประสบการณ์ตรง**: ได้เห็น ได้ลองทำจริง ซึ่งช่วยให้เข้าใจได้ดียิ่งขึ้น

### วิธีจัดสัมมนาและเวิร์คช็อป

  1. **เลือกหัวข้อ**: ต้องน่าสนใจและตรงกับความต้องการของตลาด
  2. **กำหนดรูปแบบ**: ออนไลน์, ออฟไลน์, หรือแบบผสม
  3. **วางแผนเนื้อหา**: สร้างหลักสูตรที่ครอบคลุมและน่าสนใจ
  4. **เตรียมสื่อและอุปกรณ์**: สไลด์, เอกสารประกอบ, อุปกรณ์สำหรับกิจกรรม
  5. **หาสถานที่หรือแพลตฟอร์ม**: สำหรับการจัดงาน
  6. **ทำการตลาด**: ประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทางต่างๆ
  7. **เตรียมทีมงาน**: สำหรับช่วยดูแลและจัดการงาน

### ช่องทางการขายสัมมนาและเวิร์คช็อป

– เว็บไซต์ส่วนตัว

– แพลตฟอร์มขายตั๋วออนไลน์ เช่น Eventbrite

– โซเชียลมีเดีย Facebook , Instagram , tiktok ฯลฯ

– การร่วมมือกับองค์กรหรือบริษัทต่างๆ ,วิทยากรรับเชิญ

สรุป

การเปลี่ยนความรู้และความสามารถที่คุณมีให้เป็นรายได้ เป็นโอกาสทางธุรกิจที่น่าสนใจในยุคดิจิทัล ด้วยการใช้กลยุทธ์ที่หลากหลายผ่าน 5 ตลาดหลัก คุณสามารถสร้างแหล่งรายได้ที่หลากหลายและยั่งยืน ไม่ว่าจะเป็นอีบุ๊ค ออดิโอบุ๊ค คอร์สออนไลน์ การโค้ชชิ่งส่วนตัว หรือการจัดสัมมนา แต่ละช่องทางมีข้อดีและความท้าทายที่แตกต่างกันสิ่งสำคัญคือการเริ่มต้นจากสิ่งที่คุณรู้และรัก พัฒนาความเชี่ยวชาญอย่างต่อเนื่อง และมุ่งมั่นที่จะสร้างคุณค่าให้กับผู้อื่น [perfectpullquote align=”full” bordertop=”false” cite=”” link=”” color=”#FFA500″ class=”” size=”26″]
การสร้างธุรกิจจากความรู้ไม่เพียงแต่จะช่วยให้คุณมีรายได้เท่านั้น แต่ยังเป็นการแบ่งปันประสบการณ์และช่วยเหลือผู้อื่นให้เติบโตและประสบความสำเร็จด้วย [/perfectpullquote]

### คำแนะนำสุดท้าย

การเริ่มต้นอาจไม่ง่าย แต่ด้วยความมุ่งมั่นและความต่อเนื่อง คุณสามารถสร้างธุรกิจจากความรู้และความเชี่ยวชาญของคุณได้ จำไว้ว่า ทุกคนมีความรู้และประสบการณ์ที่มีค่า เพียงแค่คุณต้องรู้จักนำมันออกมาใช้ให้เป็นประโยชน์
(ททท….ทำทันที) เริ่มต้นตั้งแต่วันนี้ แล้วคุณจะพบว่า การแบ่งปันความรู้ไม่เพียงแต่สร้างรายได้ แต่ยังช่วยพัฒนาตัวคุณเองและสร้างคุณค่าให้กับผู้อื่นอีกด้วย ขอให้โชคดีในการเริ่มต้นธุรกิจดิจิทัลของคุณค่ะ!

ขายอะไรดี

แปลงความรู้สู่รายได้: 5 ตลาดดิจิทัลที่คุณควรรู้ Read More »

ขาย ebook

ขายebookที่ไหนดี ชี้เป้า 9แหล่งส่งขาย ebook

ขาย ebook

จากคำถามของพี่ๆน้องๆหลายๆคนที่ติดตามเพจของจิน ถามมาว่าทำ ebooks เสร็จแล้วจะส่งขายที่ไหนคะ/ครับ ซึ่งจริงๆแล้วรายละเอียดในเนื้อหาในคอร์สจึงบอกไว้หมดเรียบร้อยแล้ว แต่ถามมากันค่อนข้างเยอะ

เลยอยากมาสรุปให้พี่ๆน้องๆที่ติดตามทางหน้าเพจ facebook ได้อ่านกันอีกที ซึ่งที่จินจะสรุปนี้อาจจะไม่ใช่ทั้งหมดแต่เป็นที่นิยมทำกันในปัจจุบันค่ะ เรามาดูกันเลยว่ามีที่ไหนบ้าง

9 แหล่งขาย e-bookยอดนิยม

 

1.ookbee.com

หากจะถามหาแหล่งซื้อหนังสือออนไลน์ เชื่อได้ว่า ookbee น่าจะเป็นที่คุ้นหูของใครๆหลายคน ในส่วนของ ookbee สามารถเข้าถึงได้ทั้งทางคอมพิวเตอร์หรือ notebook และโทรศัพท์มือถือ อีกทั้งยังมีแอพพลิเคชั่นทั้ง android และ iPhone อีกด้วย หนังสือของ ookbee แบ่งหมวดหมู่ย่อยหลากหลายประเภทของหนังสือ

ซึ่งในส่วน ookbee นั้นยังเปิดช่องทางให้นักเขียนและสามารถส่ง e-book ของตนเองไปวางที่ร้านได้ด้วย

ขาย ebook

2.mebmarket.com

เป็นอีกแหล่งหนึ่งที่เราจะเขียนเอาหนังสือไปวางขายซึ่งก็มีนักเขียนนำหนังสือ e-book ไปวางขายกันเป็นจำนวนมาก แต่สำหรับงานเขียนที่เป็นนิยายดูจะเป็นแหล่งที่นักเขียนให้ความสนใจเอาไปวางขายกันเป็นจำนวนมาก ดังจะเห็นได้ว่าเมื่อเราเข้าไปในหน้าแรกของเว็บไซต์เราจะเห็นในส่วนของนิยายที่จะแสดงอยู่ในหน้าแรก  หากจะเข้าไปค้นหาหนังสืออื่นๆต้องไปเข้าที่หมวดหมู่ ดังนั้นในส่วนของ mebmarket.com คงจะต้องพิจารณาในเรื่องของเนื้อหาและหมวดหมู่ที่จะส่งขาย อย่างไรก็ตามก็ถือว่าเป็นแหล่งขาย ebook ที่มีผู้สนใจเข้าไปซื้อเป็นจำนวนมาก

ขาย ebook

3.naiin.com

ในยุคที่ต้องปรับเปลี่ยน กับการขายบนออนไลน์ร้านหนังสือเองก็เข้าสู่การปรับเปลี่ยนด้วยเหมือนกัน เหมือนอย่างเช่นร้านหนังสือนายอินทร์ที่เปิดตลาดการขายหนังสือออนไลน์ นอกจากนี้ก็ยังเปิดรับนักเขียนหน้าใหม่ ที่ต้องการพาตัวเองเข้ามาสู่วงการนักเขียนโดยสามารถลงทะเบียนได้ฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย 

ในส่วนของตัวเว็บไซต์ของ naiin เองก็มีหมวดหมู่ที่หลากหลายโดยเฉพาะในส่วนของ e-book ซึ่งมีเป็นจำนวนมากหากใครสนใจลองเข้าไปในเว็บไซต์และเยี่ยมชมดูก่อนได้เลยค่ะ

ขาย ebook

4.se-ed.com

สำหรับในส่วนของคอหนังสือ คงจะไม่มีใครไม่รู้จักในส่วนของร้านหนังสือซีเอ็ด ซึ่งในส่วนของร้านปัจจุบันก็ยังมีขายหนังสือที่เป็น Book Shop แบบที่มีหน้าร้าน และในปัจจุบันก็ไม่พลาดในส่วนแบ่งของร้านหนังสือออนไลน์ด้วยเช่นกัน สำหรับนักเขียนที่อยากส่งงาน E Bookขาย  ร้านซีเอ็ดเองก็เปิดรับสมัครนักเขียนใหม่ๆ ถึงแม้ว่าจะเริ่มต้น รับนักเขียนหน้าใหม่ช้ากว่าเพื่อนๆเขาแต่ก็ถือว่ามาช้าแต่ก็มานะ ในส่วนของลิงค์การรับสมัครคลิกตามหัวข้อของร้านได้เลยค่ะหรือคลิกตามรูปภาพได้เลยนะคะ

ขาย ebook

ในส่วนของการฝากวางขายตามร้านขายหนังสือออนไลน์ นักเขียนต้องยอมรับในเรื่องของส่วนแบ่งในการขาย ซึ่งจะขึ้นอยู่กับแต่ละร้านค้าที่ได้กำหนดสัดส่วนของการขายไว้ ซึ่งสัดส่วนของการขายนี้แต่ละที่จะไม่เท่ากันและอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดตามระยะเวลา ดังนั้นจินจะไม่ได้นำรายละเอียดของการรับค่าตอบแทนของร้านต่างๆมานำเสนอให้นะคะ

5.Facebook Page

การเปิดเพจใน Facebook เพื่อวางขาย e-book เป็นสิ่งที่จินอยากจะแนะนำค่ะ เพราะในส่วนของรายได้จะขึ้นอยู่กับตัวของเราเอง ซึ่งในการขายในเพจ Facebook นั้น สิ่งที่จินอยากจะแนะนำก็คืออยากให้นักเขียนสร้างแบรนด์ไปพร้อมๆกับการทำ Content อย่างต่อเนื่อง ทริคเล็กๆก็คือความมีวินัยและการเรียนรู้เพิ่มเติมในสิ่งใหม่ๆ เราอาจจะต้องเรียนรู้ในเรื่องของการโฆษณาทาง Facebook เพิ่มเติมซึ่งก็ไม่ได้ยากจนเกินไป จินเชื่อว่าเพื่อนๆทำได้ค่ะ 

6.สร้างเว็บไซต์ / Blog เพื่อขาย Ebook

พอเอ่ยคำว่าสร้างเว็บไซต์เพื่อนๆหลายคนอาจจะพากันคิดไปล่วงหน้าว่ายาก  แต่จริงๆแล้วการสร้างเว็บไซต์สมัยนี้ไม่ได้ยากจนเกินไปค่ะ ซึ่งเว็บไซต์สมัยนี้เราสามารถมีเว็บไซต์ได้ในราคา 1,XXX บาทต้นๆ ต่อปี (บางทีไปทานอาหารครั้งหนึ่งยังหมดมากกว่าเลยค่ะ🤣🤣🤣) และการทำก็กึ่งๆสำเร็จรูปไม่ได้ยากเกินความสามารถเพื่อนๆจริงๆนะคะ นอกจากนี้เรายังหารายได้จากเว็บไซต์ด้วยการเผยแพร่บทความและเพิ่มเติมในส่วนของ Google adsense ได้อีกด้วยค่ะ

7.ขายใน Marketplace

การขายใน marketplace ที่เป็นที่นิยมก็จะมีในส่วนของ shopee Lazada หรือ kaidee.com ฯลฯ โดยเฉพาะใน shopee Lazada เองร้านหนังสือหรือสำนักพิมพ์ต่างๆก็ไปเปิดขายกันมากมาย ในส่วนของ marketplace นั้นตัวเราเองเป็นเจ้าของร้าน ดังนั้นส่วนแบ่งรายได้จึงมีแค่เปอร์เซ็นต์เพียงเล็กน้อยที่ marketplace ต่างๆจะหักเป็นส่วนของค่าใช้จ่าย ซึ่งก็อาจจะได้สัดส่วนรายรับที่มากกว่าร้านหนังสือ อย่างไรก็ตาม เราอาจจะต้องทำการโปรโมท เพื่อให้คนเข้าถึงร้านค้าของเราได้มากยิ่งขึ้นด้วยค่ะ 

8.วางขายใน Tiktok

เป็นช่องทางใหม่ที่หลายๆคนเริ่มเอาสินค้าจำพวกหนังสือหรือแม้กระทั่ง e-book นำไปวางขาย ซึ่งใน tiktok เราอาจจะต้องมีพื้นฐานในเรื่องของการทำ Short Video และเพิ่มเติมในส่วนของการทำ Content หรือการค้นหาแฮชแท็ก และสิ่งสำคัญที่ต้องมีคือการรักษาวินัยในการทำ content อย่างต่อเนื่อง และพร้อมเรียนรู้สิ่งใหม่ๆอยู่ตลอดเวลา

ขาย ebook

9.โกอินเตอร์วางขายตลาดต่างประเทศ

นอกจากมองในตลาดบ้านเราแล้ว หากใครมีพื้นฐานภาษาต่างประเทศในส่วนของตลาดต่างประเทศก็ดูเป็นเรื่องที่น่าสนใจมิใช่น้อย ตลาดใหญ่ๆก็คงจะหนีไม่พ้น Amazon Kindle Direct Publishing (KDP): Amazon KDP ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มยอดนิยมสำหรับการเผยแพร่ ebook ด้วยตนเอง คุณสามารถรับค่าลิขสิทธิ์สูงถึง 70% จากการขาย ebook ได้ ส่วนของแพลตฟอร์มออนไลน์อื่นๆ เช่น Barnes & Noble Press, Kobo Writing Life, Google Play Books, Apple Books, Smashwords, Gumroad และ BookBaby เป็นต้น แต่ละแพลตฟอร์มนั้นจะมีกฎเกณฑ์และเงื่อนไขที่แตกต่างกันไป ดังนั้นควรศึกษาและเลือกใช้แพลตฟอร์มที่เหมาะสมกับความต้องการของคุณและสินค้าของคุณด้วยค่ะ

ขาย ebook

สำหรับการวางขาย ebook ที่ได้กล่าวมาเบื้องต้นนี้ เป็นในส่วนของตลาดที่เป็นที่นิยม  ซึ่งจริงๆอาจจะมีมากกว่านี้แต่จินขอยกตัวอย่างมาเพียงเท่านี้ก่อนนะคะ สำหรับการวางขายก็ไม่ได้มีข้อจำกัดหรือข้อห้ามใดๆ เราสามารถลงวางขายได้ทุกช่องทางทุกแพลตฟอร์มพร้อมๆกันได้เลยค่ะ

อ่านมาถึงตอนนี้แล้วเพื่อนๆพร้อม หรือยังกับการเปลี่ยนความรู้เพื่อมาเป็นรายได้ด้วยการเขียน e-book ขอบคุณที่ติดตามและอ่านมาจนถึงบรรทัดสุดท้ายนี้นะคะ

ติดตามเนื้อหาดีๆเพิ่มเติมได้ที่

Facebook
https://www.facebook.com/JinFreedomlifeExpert

website&blog
https://jinmommyonline.com/
https://onlinemystore.co/

Podcast
https://spoti.fi/3DmMT6u

TikTok
https://www.tiktok.com/@jin589

พูดคุย สอบถาม ทักทายได้ที่
https://lin.ee/XPhgJyQ

สำหรับใครที่สนใจในแนวทางการเขียน ซึ่งเป็น 1 ใน Digital products จินขออนุญาติแนะนำคอร์สที่จินตั้งใจทำขึ้นมาเพื่อถ่ายทอดความรู้ในเรื่องของการเขียนเพื่อสร้างรายได้ ในคอร์ส “เขียน ขาย ต้นทุน 0 บาท” เพื่อเป็นไกด์นำทางนะคะ สนใจรายละเอียดเพิ่มเติมคลิกอ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่  หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมหรือมีคำถามและต้องการปรึกษา สามารถพูดคุยทักทายกันได้ที่ปุ่มด้านล่างนี้ค่ะ

เพิ่มเพื่อน

ขายebookที่ไหนดี ชี้เป้า 9แหล่งส่งขาย ebook Read More »

ebook

5 ข้อได้เปรียบของEbookในการทำธุรกิจ

ebook

5 ข้อได้เปรียบของEbook ในการทำธุรกิจ

จากแนวโน้มของการเติบโตของ smartphone ในประเทศ ประกอบกับการประสบปัญหาโควิด 2019 ทำให้ตลาดของหนังสืออีบุ๊คเติบโตมากยิ่งขึ้น และการอ่านหนังสืออีบุ๊คก็ทำได้สะดวกผ่านโทรศัพท์มือถือ ซึ่งในปัจจุบันมีใช้กันเป็นจำนวนมาก

5 ข้อได้เปรียบของEbookในการทำธุรกิจ Read More »

เล่าเรื่อง

5 Step Story Telling อย่างไรให้ยอดเยี่ยม

คุณเคยได้ยินไหม?

ประสบการณ์ คือครูที่ดีที่สุด” หลังจากทำและเจ้าของธุรกิจออนไลน์มาเข้าปีที่ 7

จินก็รู้ว่าคำพูดนั้นเป็นเรื่องจริงแค่ครึ่งเดียว “ ประสบการณ์ไม่ใช่ครูที่ดีที่สุด” แต่ครูที่ดีที่สุดในโลกธุรกิจคือ …

5 Step Story Telling อย่างไรให้ยอดเยี่ยม Read More »

ฟรีแลนซ์

5 เว็บไซต์ไทยหางาน หาเงินสำหรับฟรีแลนซ์

5 เว็บไซต์ไทยหางานสำหรับฟรีแลนซ์

ฟรีแลนซ์

ถ้าคุณมองหาอะไรทำเพิ่ม และกำลังอยากเริ่มหาเงินออนไลน์ แต่ไม่ชอบขายของออนไลน์ ก็ขายความสามารถ เริ่มต้นด้วยเงินลงทุน 0 บาท จะ หางานเสริมเพิ่มรายได้ไม่ต้องลงทุนเยอะๆ …

5 เว็บไซต์ไทยหางาน หาเงินสำหรับฟรีแลนซ์ Read More »

blogger

Blogger สร้างรายได้จริงไหม?

การเขียนบล๊อก สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำได้จริงไหม?

blogger

รู้ตัวว่าเป็นคนมีของ แต่ไม่กล้าออกกล้อง ไม่ชอบไลพ์สด ไม่ชอบตื้อง้อ ขอขาย  เป็นไหม?    เปิดการขาย ปิดการตัดสินใจลูกค้าเรียบร้อย จะเก็บเงินอึดอัดใจซะงั้นค่ะ 55

บล็อกเกอร์ ไม่ต้องแพคสินค้า ไม่ต้องคอยไปส่งของ ตอบแชทลูกค้า ทำงานที่ไหนก็ได้ ส่วนตัวถือว่าเป็นหนึ่งในช่องทางในการสร้างเครื่องผลิตเงินออนไลน์  ( Passive Income ) หรือเรียกได้ว่าเป็นทรัพย์สินออนไลน์ดีๆเลยนะคะ สร้างรายได้ด้วยใช้ชีวิตได้ WorkFlowLifeBalance ได้เลยค่ะ

[perfectpullquote align=”full” bordertop=”false” cite=”” link=”” color=”#42fffb” class=”” size=”18″]Blogger  ไม่ได้ไส้แห้งอย่างที่คิด เป็นอีกเครื่องมือการทำเงินไร้สต๊อก ด้วยการเปลี่ยนข้อความ เป็นรายได้ผ่านเว็บไซต์ของคุณเอง[/perfectpullquote]

สำหรับมือใหม่อยากเริ่มต้น สามารถเลือกทำ Blog ผ่านPlatform ฟรี อย่าง Blogger เลยก็ได้นะคะ(การเริ่มต้นสร้าง Blog สำหรับมือใหม่) 

แต่ส่วนตัวจินแนะนำให้เขียนบน WordPress เลยจะดีกว่าค่ะ สามารถต่อยอดการทำร้านค้าไร้สต๊อก หรือการทำตลาด Ecommerce เว็บไชต์ได้อีกด้วยค่ะ ซึ่งค่าใช้จ่ายต่อปีในการจดโดเมน และโฮสติ้งหลักพันต่อปี ถูกมากๆค่ะ

[perfectpullquote align=”full” bordertop=”false” cite=”” link=”” color=”#42fffb” class=”” size=”18″]ถามว่าการเป็น Blogger  มันสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำให้กับเราได้จริงๆ “ถ้าสร้างเป็น ทำถูก และรู้เทคนิค” มันก็จะสามารถสร้างรายได้เข้ากระเป๋าให้กับเราได้อีกหนึ่งช่องทางค่ะ[/perfectpullquote]

หากใครที่ชอบการเขีบน ชอบการได้แชร์ ได้แบ่งปันเรื่องราวดีๆให้กับผู้คนบนโลกออนไลน์อยู่แล้วเรียกได้ว่ามีความสุขจากสิ่งที่ชอบ และเกิดรายได้ตามมาด้วยตรงนี้เรียกว่ากำไรสุดๆไปเลยจริงไหมคะ

3 สิ่งที่ต้องมี และต้องเตรียมในการทำ Blog

1.อย่างแรก คุณต้องมีเว็บไซต์ หรือ Blogger (มือใหม่สร้างบล๊อกง่ายๆ ฟรี)

2.อย่างที่สอง คุณต้องมีบทความ ( มือใหม่กับการเขียนบทความอย่างง่าย) โดยตรงนี้เป็นหัวใจหลักในการสร้างรายได้ที่เป็นกอบเป็นกำต่อเนื่องเลยก็ว่าได้ จินขอติตเทคนิคเล็กๆน้อยไว้ต่อครั้งหน้านะคะ ในส่วนของการเขียน หรือสร้างบทความ

3.การติด Google Adsense เพื่อสร้างท่อทางไหลของรายได้ผ่าน blog ของเรานั่นเองค่ะ

แน่นอนหากคุณเริ่มต้น ทำ Blog โดยไม่วางแผนเลย สิ่งที่ตามมาอาจเจอทางตันที่เลวร้ายสุดๆ คือการเลิกทำไปเลยโดยที่ยังไม่เกิดรายได้  ส่วนตัวจินเองอยากทำเยอะไปหมด อยากเขียน อยากเล่า อยากเปิดเว็บไซต์เพิ่ม(ทำเป็นเริ่มสนุกกับการทำ) แต่สุดท้ายแต่ละเว็บไซต์การทิ้งช่วงการลงบทความ  หรือทำบทความให้เสร็จๆไป ไม่มีประโยชน์ให้กับคนอ่าน ผลที่ได้รับกลับมาตัวเลขไม่เคยหลอกใครจริงๆค่ะ คือสถิติการเข้าชม ลดลง รายได้ก็ลดตามเป็นนัยยะต่อกันค่ะ

[perfectpullquote align=”full” bordertop=”false” cite=”” link=”” color=”#42fffb” class=”” size=”18″](คลิ๊กอ่านเพิ่มเติม)ลองเปลี่ยนสิ่งที่ชอบ ให้เป็นสิ่งที่ใช่ และใช้สร้างรายได้ผ่านการเป็น Blogger ลองดูนะคะ[/perfectpullquote]

 

บล็อกเกอร์ สามารถต่อยอดไปสู่การเป็นนักเขียน รับจ้างเขียนบทความ เขียนคอนเทรนต์ เขียนหนังสือ Ebook  หรือรับงานสอนเขียน รับสอนรับทำเว็บไซต์ เป็นต้นค่ะ  พูดคุยแลกเปลี่ยนการทำ Blog อย่างง่ายสไตล์จิน แอดไลน์มาคุยส่วนตัวได้นะค่ะ ( พูดคุยกับจิน ส่วนตัว )

Blogger สร้างรายได้จริงไหม? Read More »

Kaidee.com

3 ขั้นตอนง่ายๆ เปิดร้านออนไลน์ฟรี!!บน Kaidee.com

3 ขั้นตอนเปิดร้านค้าออนไลน์บน Kaidee.com

คำถามยอดฮิต ” ขายอะไรดี” “ไม่เก่งออนไลน์ขายยังไงดี” ไม่กล้าไลพ์สด จะขายออนไลน์ได้ไหม” “ขายออนไลน์ ไม่ต้องลงทุน” “ขายออนไลน์ลงทุน 0 บาท” และอีกมากมายหลากหลายคำถามของคนขี้เขิลแต่มีหัวใจพัฒนาในฐานะผู้ประกอบการที่มีใจอยากย้ายร้านขึ้นบนออนไลน์

แรงบันดาลใจที่เอาวิธีการเปิดร้านค้าบนออนไลน์บน kaidee.com วันนี้ ก็เกิดมาจากคำถามของเพื่อนในเฟสบุ๊คถามว่า ” อยากขายออนไลน์ ไม่รู้จะขายอะไรดี ไม่เก่งออนไลน์ ไม่มีทุนสูง” ขอบคุณสำหรับคำถามนะคะ จินเชื่อว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับเพื่อนๆที่กำลังหาคำตอบอยู่อยู่เหมือนกัน และผ่านมาเจอบทความ สอนการเปิดร้านค้าออนไลน์ (ฟรี) บนเว็บไซต์ kaidee.com ด้วยนะคะ

[perfectpullquote align=”full” bordertop=”false” cite=”” link=”” color=”#ff0000″ class=”” size=”32″]คำถามคือเพื่อนๆจะเป็นคนซื้อ หรือเป็นคนขาย (เจ้าของร้านค้าออนไลน์)[/perfectpullquote]

3 ขั้นตอนเปิดร้านค้าออนไลน์บน Kaidee.com

ขั้นตอนที่ 1 เพื่อนๆไปที่ google

และพิมพ์คำค้นหาคำว่า ” kaidee.com ” เสร็จแล้วก็คลิ๊กตาม Link ของเว็บไซต์ตามไปได้เลยค่ะ

ขั้นตอนที่ 2  กดสมัครสมาชิกที่ปุ่ม “สมัครสมาชิก”

มุมบนขวาของเว็บไซต์ค่ะ จะโชค์หน้าคำสั่งขึ้นมาตามภาพด้านล่าง ให้เพื่อนๆ เลื่อนลงไปกดปุ่ม “สมัครสมาชิก” ได้เลยค่ะ

ขั้นตอนที่ 3 ลงมือทำกันเลย

เริ่มสมัครสมาชิกง่ายๆ ตามหน้าจอได้เลยค่ะ จะกรอก “เบอร์โทรศัพท์”หรือ ” สมัครด้วยเฟสบุ๊ค” ก็สามารถทำได้ตามสะดวกได้เลยค่ะ

เท่านี้ก็เป็นอันว่าเรียบร้อย และขอแสดงความยินดีด้วยนะค่ะ เพื่อนๆ เป็นเจ้าของธุรกิจออนไลน์เรียบร้อยค่ะ  ง่ายมากๆเลยใช่ไหมค่ะกับการเปิดร้านค้าออนไลน์ ครั้งหน้าจินจะพาเพื่อนๆลงสินค้าและเข้าไปดูหลังร้านค้าออนไลน์กันค่ะ ขอบคุณที่ติดตามจนจบถ้าเห็นว่าเป็นประโยชน์ก็สามารถแชร์แบ่งปันได้เลยนะคะ หรือหากว่าอยากสอบถามเพิ่มเติมก็พิมพ์ข้อความสอบถามมาได้เลยค่ะ จะรีบหาคำตอบมาให้เพื่อนๆเพื่อสร้างรายได้ บนออนไลน์ไปด้วยกันค่ะ

3 ขั้นตอนง่ายๆ เปิดร้านออนไลน์ฟรี!!บน Kaidee.com Read More »

sale page

Sale page ช่วยสร้างยอดขาย ขยายฐานลูกค้าอัตโนมัติ

Sale page ช่วยสร้างยอดขาย ขยายฐานลูกค้าอัตโนมัติ

“เซลเพจ_ผู้ช่วยสร้างยอดขาย ขยายฐานลูกค้าแบบอัตโนมัติ
เพื่อนๆกำลังมองหาเครื่องมือนี้อยู่ใช่หรือไม่

LANDING PAGE

มาทำความรู้จักกับ เซลเพจ (SALE PAGE)

เว็บไซต์หน้าเดียว ปัจจุบันกำลังได้รับความนิยมมาก เครื่องมือสำหรับขายของออนไลน์ ที่ถูกจัดทำขึ้นมาในรูปแบบของหน้าร้านค้าออนไลน์ ข้อมูลสินค้าและธุรกิจมีความกระชับเหมาะกับนิสัยคนยุคใหม่ ที่ไม่ชอบการอ่านอะไรยาวๆ ชอบความง่าย เข้าใจเร็ว หรือไม่ชอบที่จะคลิกเปิดหลายหน้า

ทำไม Sale Page หรือเว็บไซต์หน้าเดียวจึงได้รับความนิยม

การนำเสนอข้อมูลบนเซลเพจ เน้นความสะดวกของผู้รับข้อมูลเป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งจะช่วยให้การขายของผ่านออนไลน์ทำได้ง่ายขึ้น เหมาะกับการดูข้อมูลรายละเอียดสินค้า และบริการบนเมือถือ เปรียบเทียบได้กับเรามีพนักงานขาย นำเสนอขายให้ลูกค้าที่ผ่านเข้ามาร้านค้าของเราอย่างไม่รู้เหน็ดเหนื่อย ทำงานได้ทั้งเวลาคุณหลับและตื่น ไม่มีค่าล่วงเวลา หรือไม่ต้องจ่ายเงินเดือนพนักงานขายเซลเพจของคุณเลย

คีย์สำคัญคือทำอย่างไร ? ให้น่าสนใจและปิดการขายได้ในหน้าเดียว

นอกจากเรื่องการทำหน้าเว็บไซต์ปิดการขายหน้าเดียวเซลเพจให้รองรับมือถือ ง่ายต่อการใช้งานในอุปกรณ์ Smart Phone แล้ว วันนี้เราจะมาพูดถึง “เนื้อหา” ด้านในเว็บไซต์กันค่ะว่าจะทำอย่างไรบ้างให้น่าสนใจและปิดการขายได้ในหน้าเดียว

1.ลูกค้าของเรา คือใคร

เขาต้องการสินค้า หรือบริการอะไร และเป็นแบบไหน หรือลูกค้าชอบ หรือไม่ชอบอะไร ยิ่งรู้จักกลุ่มเป้าหมายมากเท่าไหร่ เซลเพจที่ทำจะยิ่งแข็งแรง ดูดึงดูด ชนะใจกลุ่มลูกค้าได้ง่ายขึ้นเท่านั้น

2.ตัวอักษรชัด และการเขียน “ประโยคแรกต้องปัง ประโยคต่อมาต้องโดน”

ประโยคแรกหรือหัวข้อ เป็นข้อความแรกที่เราต้องเขียน และเป็นข้อความที่สำคัญที่สุดด้วย เพราะประโยคนี้ประโยคเดียวมีผลอย่างมากว่า จะทำให้ลูกค้าอยู่ต่อหรือออกจากหน้านั้นไปเลย

ส่วนประโยคต่อมาช่วยขยายความของประโยคแรก ส่วนใหญ่แล้วก็มักจะใช้  Pain point กลุ่มเป้าหมาย เกิดด้วยประโยคคำถาม โน้มน้าวชวนคิด ชวนดู ให้น่าสนใจ

3.รูปภาพและวิดีโอ

เซลเพจที่ดีควรมีภาพประกอบด้วย ถ้าเป็นไปได้ควรใช้ภาพหรือวิดีโอแสดงถึงคนจริงๆ ผลิตภัณฑ์จริง บริษัทจริง ทีมงานจริง ช่วยให้หน้าเซลเพจมีเอกลักษณ์และดูน่าเชื่อถือเพิ่มขึ้น

4.แหล่งอ้างอิงข้อมูล และรีวิวสินค้าหรือบริการ

จะซื้อผลิตภัณฑ์จากบริษัท (B2B) ที่เชื่อถือ และ 78% ของลูกค้าจะไปหาแบรนด์ที่ตัวเองเชื่อถือก่อนเวลาจะทำการซื้อ ดังนั้นการให้ข้อมูลที่สร้างความน่าเชื่อถือ มีผลอย่างสูงในการตัดสินใจซื้อสินค้าและบริการ

5.สร้างโปรโมชันที่ชัดเจน

เขียนประโยคนั้นให้ชัดเจนว่าลูกค้าจะได้อะไร ,ธุรกิจของเราขายอะไร ,ข้อเสนอโดดเด่นอย่างไรโปรโมชันหรือส่วนลดภายในระยะเวลาจำกัด อาจจะใส่ไว้มุมบนของหน้าเซลเพจ หรือเป็น pop up ลอยตามหน้าเซลเพจบอกว่า ผลิตภัณฑ์นี้เหมาะกับใคร หากราคาไม่ใช่จุดเด่นของผลิตภัณฑ์ อาจเน้นถึง “คุณค่า” ของสินค้า/บริการให้เด่นขึ้น เป็นต้นค่ะ

6.ช่องทางติดต่อปุ่ม Call to Action (CTA)

เรียกง่ายๆ คือ ปุ่มบอกทาง บอกให้ผู้เข้าชม เว็บไซต์ของเราให้เขาทำอะไรสักอย่าง เช่น สมัครเลย, สอบถามเพิ่มเติม,สั่งซื้อทันที ,ทดลองใช้งานฟรี เป็นต้นค่ะ  อาจจะใส่ปุ่ม Call to Action ไว้หลายที่ได้ และข้อความควรเกี่ยวข้องกับเนื้อหาของเซลเพจด้วยนะคะ

7.อื่นๆ เพิ่มเติม

เช่น โทนสี โทนอารมณ์ หรือภาษาของเว็บตรงกลุ่มเป้าหมาย เพิ่มปุ่ม inbox , ปุ่มแชร์ช่องทางโซเชียลมีเดียอื่นๆ ด้วยเป็นต้นค่ะ

สุดท้าย การทำเซลเพจที่สร้างยอดขายมากได้จริงๆ นักการตลาดต้องหมั่นศึกษาพฤติกรรมการเข้าใช้งานของลูกค้าบนเว็บไซต์ของตัวเอง เครื่องมือต่างๆช่วยวิเคราะห์ เช่น Google Analytics, การทำลิงค์ UTM ฯลฯ แล้วนำวิเคราะห์เพื่อปรับหรือทดลองให้หน้าเซลเพจที่ทำ สามารถสร้างยอดขายได้จริงหรือได้ดียิ่งๆ ขึ้นค่ะ หากต้องการคำปรึกษาจากเรา ยินดีให้คำแนะนำนะคะ (ฟรี ) ไม่มีค่าใช้จ่าย  ให้ธุรกิจของคุณได้หน้าร้านออนไลน์ที่ดีที่สุด สร้างยอดขายได้ฐานลูกค้ามากกว่าเดิม

 

Sale page ช่วยสร้างยอดขาย ขยายฐานลูกค้าอัตโนมัติ Read More »

ปักหมุดธุรกิจบน google maps

8 ขั้นตอนการปักหมุด ให้ลูกค้าหาธุรกิจคุณเจอบน google Maps

ตัวช่วยในการทำธุรกิจยุคนี้สมัยนี้ ที่ขาดไม่ได้คือการทำให้ลูกค้าค้นหาร้านค้าเราเจอได้ง่ายๆ นั่นก็คือการระบุร้านค้าลงบนแผนที่ใน google maps เพราะทุกวันนี้ไม่ว่าจะเป็นการเดินทาง …

8 ขั้นตอนการปักหมุด ให้ลูกค้าหาธุรกิจคุณเจอบน google Maps Read More »

สร้างรายได้จากgoogle adsense

5 เหตุผลทำไมคุณควรสร้างรายได้อัตโนมัติด้วย Google Adsense ?

5 เหตุผลทำไมคุณควรสร้างรายได้อัตโนมัติด้วย Google Adsense ?

สร้างรายได้อัตโนมัติด้วย google adsense

Google Adsense เป็นช่องทางเพิ่มรายได้อัตโนมัติด้วยการเข้าสู่เครือข่าย ผู้ลงโฆษณาออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุด เป็นการสร้างรายได้จากเว็บไซต์จากมุมไหน เวลาไหนก็ได้ที่มีสัญญาณอินเตอร์เนต WorkLifeBalance

5 เหตุผลทำไมคุณควรสร้างรายได้อัตโนมัติด้วย Google Adsense ? Read More »

Scroll to Top