Smart Display Campaign… เพิ่ม Lead ด้วย Machine Learning จาก Google Ads

ท่านเคยได้ยินเขาพูดกันถึง AI/ML เปลี่ยนโลกหรือ  Big Data พลิกโลกกันบ้างมั๊ยครับ?

ผมติดตามกระแส AI/ML หรือ Artificial Intelligence/Machine Learning และกระแส Big Data มาตลอดตั้งแต่เข้ามาอยู่ในวงการ Startup เมื่อเกือบสิบปีก่อน… และโดยอาชีพหลักที่เป็นโปรแกรมเมอร์มานานกว่ายี่สิบปี ทำให้ AI/ML และ Big Data ไม่ใช่เรื่องยากเกินไปสำหรับผม

ที่จริงองค์กรธุรกิจยักษ์ๆ หลายเจ้าในบ้านเรา เริ่มปรับตัวเปิดรับเทคโนโลยีมาตั้งแต่ “ยุคตื่น Y2K” กันมากแล้ว ถ้าเอ่ยชื่อออกมาว่ามีใครบ้างเชื่อว่าทุกท่านคงร้องอ๋อ! กันทุกคน… ที่ผมทราบเพราะว่า ประเทศไทยเป็นตลาดซอฟท์แวร์องค์กร ที่มีมูลค่าน่าตื่นตลึงถึงขนาดที่ บริษัทไอทียักษ์ใหญ่เบอร์ต้นๆ ของโลกอย่าง MicroSoft, Oracle, IBM, SAP ล้วนมีสำนักงานสาขาอยู่ในประเทศไทยนานแล้ว… ซึ่งทุกเจ้ามีลูกค้าในมือมากพอที่จะทำให้ผู้บริหารสาขาประเทศไทย ไปออกรอบตีกอล์ฟ ได้เดือนละหลายเที่ยว

เมื่อ Digital Disruption มาถึง… องค์กรที่ลงทุนกับโครงสร้างพื้นฐานด้านข้อมูลและเทคโนโลยีอยู่ก่อน จึงสามารถต่อยอดจากข้อมูลที่เป็น Digital Data ที่สะสมมานับสิบๆ ปีได้อย่างราบรื่น…

ราบรื่นเหมือน Update Software เวอร์ชั่นใหม่แล้วไม่ล่มเลยหล่ะ!!!

ส่วนองค์กรที่ข้อมูลยังเป็นไซโล… อยู่ในแฟ้มบ้าง อยู่ในแผนกต่างๆ บ้าง หรือแม้แต่อยู่ในคอมพิวเตอร์แต่ดันเป็นเอกสารสแกนเป็นไฟล์ JPG หรือ PDF แบบแตกข้อความออกมาอ่านไม่ได้… ก็วุ่นละทีนี้

ส่วน SME กับรายย่อยในระบบนิเวศน์ดิจิตอล หรือ Digital Ecosystems… ผมเห็นส่วนใหญ่พูดถึง Big Data หรือ AI/ML เหมือน “คนสปอยละครหลังข่าว” แบบรู้ว่าเขาจะทำอะไรกัน แต่ดันเป็นได้แค่ผู้ชมมากกว่าจะรู้ว่า… ตัวเองจะไปอยู่ตรงไหนของระบบนิเวศน์นี้?… ในขณะที่หลายคนหันไปหันมา… อ้าววว! ห่วงโซ่ใหม่ ไม่มีเราอยู่ตรงไหนเลย!!!

ผมกำลังจะบอกว่า… การตัดสินใจหลายอย่างของทุกๆ องค์กรน้อยใหญ่ในปัจจุบัน… ทั้งที่ยังอยู่รอดและล้มหายตายไปจากวงจร… ต่างก็ไล่ล่าโอกาสที่จะได้อยู่ในห่วงโซ่ใหม่ ที่ลูกค้าปรับตัวทิ้งความคุ้นชินเดิมๆ ไปใช้ชิวิตกับประสบการณ์ใหม่ๆ ที่มีเทคโนโลยีเป็นฐาน

เพื่อนสนิทผมบางคนคิดไม่ออกว่าจะกินอะไรดียังเสิร์ชจาก Google เลยครับ… คำค้นอย่างคำว่า “กินอะไรดี” หรือ “ร้านอาหารใกล้ฉัน” จึงเป็นเทรนที่ Google แนะนำให้ใช้จนกลายเป็น Google my Business Platform

ทั้งหมดที่เล่ามา… เพื่อจะบอกว่า ณ วันนี้ไม่ว่าท่านจะเริ่มต้นคิดอะไร จงเริ่มที่ข้อมูล… แม้จุดแข็งที่สุดที่เคยเป็นมา จะมาจากตัวแปรอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวกับข้อมูลเลยก็ตาม

ในทางธุรกิจ… ทุกท่านน่าจะทราบดีว่าข้อมูลสำคัญกับการทำธุรกิจแค่ไหนอย่างไร โดยเฉพาะข้อมูลที่บอกท่านได้ว่า “มีคนกำลังสนใจสินค้าของท่านอยู่

ผมกำลังแนะนำให้ท่าน พาสินค้าและและธุรกิจของท่าน พิจารณาการซื้อโฆษณาหากท่านกำลังมองหาลูกค้าใหม่ๆ หรือให้เจาะจงไปชัดๆ เลยก็คือ แนะนำให้ท่านศึกษา Smart Display Campaign ที่ Google  ใช้ Big Data และ AI/ML จับคู่แคมเปญของท่านกับลูกค้าที่ระบบประเมินโอกาสที่จะซื้อสินค้าหรือบริการของท่านมาอย่างดี

…ถามตัวเองว่า ยอมจ่ายเงินเท่าไหร่ให้คนช่วยชี้เป้าลูกค้ามาที่ธุรกิจตัวเอง?

เคสที่ประสบความสำเร็จคือ กรณีของ AP(Thailand) ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ยืนยันว่า Smart Display Campaign ส่งยอดขายให้โครงการอสังหาริมทรัพย์มูลค่าหลักพันล้าน ปิดโครงการได้ยังไง คลิกที่นี่ครับ ส่วนรายละเอียดเกี่ยวกับ Smart Display Campaign หรือแม้แต่ Tools ทางการตลาดสำเร็จรูปจาก Google ทุกแบบ ศึกษาจากที่นี่น๊ะครับ

สำหรับผม… การสัมผัสกับ Smart Display Campaign ถือเป็นการทดสอบ Customer Personas ที่ช่วยพิสูจน์สมมุติฐานทางการตลาด เหมือนได้โค๊ชธุรกิจตัวจริงมาช่วย “กรอบ” หลายๆ อย่างให้เข้าที่เข้าทาง

ที่นี้ก็เหลือคำถามเดียว… ธุรกิจท่าน “เหมาะสมและใหญ่พอ” ขนาดต้องทำโฆษณาด้วย Smart Display Campaign หรือไม่?…

เท่านั้นเอง!

อ้างอิง

About Author

เรียนรู้เพื่อแบ่งปัน

Leave a Comment

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Scroll to Top