คุณเคยได้ยินไหม?
“ประสบการณ์ คือครูที่ดีที่สุด” หลังจากทำและเจ้าของธุรกิจออนไลน์มาเข้าปีที่ 7
จินก็รู้ว่าคำพูดนั้นเป็นเรื่องจริงแค่ครึ่งเดียว “ ประสบการณ์ไม่ใช่ครูที่ดีที่สุด” แต่ครูที่ดีที่สุดในโลกธุรกิจคือ
“ประสบการณ์ของคนอื่น”
คุณเคยสงสัยไหมว่า
ทำไม? คนที่รักจะประสบความสำเร็จชอบอ่านหนังสือ ชอบฟังแนวคิด ชอบดูเรื่องราวการสร้างแรงบันดาลใจ
ของความสำเร็จของคนสำเร็จ และทำไม ? คนที่รักที่จะประสบความสำเร็จชอบไปฟังสัมมนาแนวคิด แรงบันดาลใจ
จากโค้ช จากครูที่ประสบความสำเร็จคอร์สหลายๆ หมื่นถึงแสนก็มี เสียทั้งเงิน เสียทั้งเวลา ไปทำไม?
คำตอบสั้นๆ
มองจากมุมของผู้เขียนเอง ( ส่วนตัวจินเองค่ะ )
คนที่รักจะประสบความสำเร็จ “เขาซื้อประสบการณ์ของคนสำเร็จ” เพื่อใช้ย่นย่อระยะทางความสำเร็จของตัวเขาเองค่ะ
ยกตัวอย่าง ทำนายหน้าธุรกิจอสังหา อยากสำเร็จ เลือกที่จะเข้าสัมมนาคอร์สการสร้างรายได้เดือนละ 7 หลัก 8 หลัก
ของคนสำเร็จก่อนหน้าเรา หรือเรียกว่ารุ่นพี่ในวงการธุรกิจ หรืออาชีพที่เราทำ ในวันที่เขาเริ่มต้น จนถึงวันที่เขาสำเร็จ
เขาคิด เขาทำอย่างไร? เขาเจอบททดสอบ ความท้าทายบ้างไหม และเขาผ่านมันมาจนมีวันนี้ได้อย่างไร?
และเราก็เลือกอาชีพนี้ เส้นทางนี้ที่กำลังเริ่มต้น มันเป็นสุดยอดของการเรียนรู้ที่คุ้มกับการยอมแลกเวลา 3 ชม. เพื่อไปนั่งฟัง
เรื่องราว แนวคิด ประสบการณ์ของรุ่นพี่ ( ทำได้ สำเร็จจริง ) เป็นการซื้อประสบการณ์ 7 หลัก 8 หลัก ในระยะเวลา 3 ปี 5 ปี
หรือ 10 ปี ของคนสำเร็จเพื่อการเตรียมพร้อมเปิดจุดแข็ง ปิดจุดอ่อนของตัวเองเมื่อต้องออกเดินทางเส้นทางที่คนสำเร็จเคยผ่าน
นั่นเองค่ะ ซึ่งจินมองว่า นี่คือการย่นย่อระยะทางความสำเร็จในงาน หรืออาชีพที่เราทำได้เร็ว และง่ายที่สุดค่ะ
คุณเคยสงสัยไหมคะ?
เขาเอาอะไรมาเล่าได้เป็นหลายชั่วโมง หลายๆวัน และเขาเล่าอย่างไรให้น่าฟัง น่าติดตาม Next Step ขายธุรกิจ
หรือขายสินค้าของเขาเองได้อย่างยอดเยี่ยม ความลับก็คือว่าวิทยากรเก่งๆ เขารู้วิธีการขาย ผ่านการเล่า เรื่องราวที่ยอดเยี่ยม
ผ่านเรื่องราวและประสบการณ์ของอาชีพ ของธุรกิจ และชีวิตของเขานั่นเองค่ะ ที่สอดแทรกเข้ามาให้เราได้เสพผ่านการฟัง
การอ่าน และการดูค่ะ
แล้วมีบ้างไหม ? ที่ผู้นำเสนอหรือวิทยากรเล่า เรื่องราวได้น่าเบื่อ
คุณเคยเจอเหมือนกันบ้างไหมที่ จริงๆเนื้อหาในคอร์ส หรือเรื่องราวที่เขาเล่า แก่นจริงๆเป็นเนื้อเรื่องที่ดีมากๆ แต่สียดาย
ฟังไม่จบ พยายามตั้งใจฟัง แต่ยิ่งฟังยิ่งรู้สึกว่าเรื่องราวที่เขาเล่าให้ฟังนั้นช่างชวนให้เลิกฟัง และไม่น่าติดตาม คุณเคยมีประสบการณ์แบบนี้ เหมือนผู้เขียนบ้างไหมคะ คำตอบก็ต้องบอกว่ามี และเคยเจอมาบ้างเหมือนกันใช่ไหมค่ะ
เอาละค่ะมาถึงเรื่อง
5 Step ( Story Telling ) ที่ยอดเยี่ยม ที่จินเอามาให้วันนี้แล้วละค่ะ
จะว่าไปตลอดเส้นทางของการทำธุรกิจออนไลน์ของตัวเอง การเพิ่มทักษะการเขียน การพูด และการเล่าก็ถือได้ว่าเรียนรู้
และลงมือทำอยู่ต่อเนื่องนะค่ะ ยังไม่ได้ดีที่สุด ยังต้องพัฒนาให้ดียิ่งขึ้นได้ไปอีก จินเชื่อแบบนั้น
ปกติในชีวิตประจำวันของเราก็ล้วนผ่านการเล่า เรื่องราวได้อย่างยอดเยี่ยมมาแล้วด้วยกันทั้งนั้นค่ะ ไม่ว่าจะเป็นการเล่า เรื่องราวให้เพื่อนฟัง ให้คนในครอบครัวฟัง
ให้ลูกๆฟัง จินว่าทุกคนทำได้ดีมากอยู่แล้วค่ะ เล่าได้ออกรส ออกชาติ ,เล่าให้ถึงพริกถึงขิง, เล่าให้เห็นภาพ เหมือนไปด้วยกัน
อยู่ในเหตุการณ์ด้วยกันจริงๆ, การเล่า เรื่องอาหารอะไรแบบนี้ ก็เล่าแบบให้คนฟังน้ำลายไหล ชวนหิว สุดท้ายต้องตามไปกินเลย
ทีเดียว จริงไม่จริงคะ
5 Step ( Story Telling ) ที่ยอดเยี่ยม
สิ่งที่อยากให้คุณตระหนักในการบอกเล่า เรื่องราวผ่านการเล่านั้น จะเล่าอย่างไรให้เป็นครูที่ยอดเยี่ยมให้กับผู้ฟัง
นั่นก็คือการเล่า เรื่องราวที่เกิดขึ้นจริง เลือกเรื่องที่จะเล่า บอกเป็นเรื่องราวดีๆให้มีคุณค่าใช้แก้ปัญหา หรือสร้างแรงบันดาลใจ ให้ผู้ฟังค่ะ
ตรงนี้เป็นความสำคัญมากกว่าขั้นตอนหรือ Step ( Story Telling ) ด้วยซ้ำไปค่ะ
ด้านล่างนี้ คือ 5 ขั้นตอนของการเตรียมการเล่าเรื่องอย่างไรให้ยอดเยี่ยม
คือ การรู้ชัดต้องการสื่อสารเรื่องอะไร? เพื่ออะไร? ให้ใคร? ทำอะไร? เมื่อไหร่? อย่างไร? ขั้นตอนเหล่านี้จะช่วยให้
คุณจัดระเบียบเรื่องราวของคุณได้ดีขึ้น
อ่านเฉพาะเรื่อง
5 Step ( Story Telling ) ที่ยอดเยี่ยม
1.มุ่งเน้นไปที่เหตุการณ์เดียว
หยุดใช้คำว่า “เรื่องราว” และ ให้เปลี่ยนมาเริ่มใช้คำว่า “เหตุการณ์” เหตุผลก็คือ นวนิยายเรื่องหนึ่ง อาจมีเหตุการณ์หลายร้อย
หรือหลายพันเหตุการณ์ นักเล่าเรื่องที่ยอดเยี่ยม พวกเขาจะมุ่งเน้นไปที่การเล่าเหตุการณ์ เหตุการณ์เดียวที่น่าสนใจ
เหตุกาณณ์ที่ตรงกับเรื่องราวที่ต้องการสื่อสารกับคนฟัง เพื่อเปิดใจ โน้มน้าว หรือเหตุการณ์ที่เป็นจุดเปลี่ยน ( Story Telling )
เพื่อสร้างแรงบันดาลใจ สร้างความตระหนักรู้ เป็นต้นค่ะ
2.ทำให้ผู้ชม หรือคู่สนทนามีส่วนร่วม “ Hook “
มันคือช่วงประโยคสั้นๆ ที่จะดึงดูดความสนใจของผู้ชมของคุณได้ทันที เป็นจุดไคลแม็กที่ทำให้ผู้ฟังติดตามอย่างต่อเนื่องด้วยช่วงประโยคที่ไม่ยาวยืดเยื้อ และทำให้เรื่องราวของคุณแตกต่างจากคนอื่น ๆ ในประเภทเดียวกัน คุณสามารถทำสิ่งเดียวกันในเรื่องราวของคุณ การรู้วิธีเล่า เรื่องราวที่ยอดเยี่ยมเริ่มต้นด้วยการแสดงเล็กน้อย การบอกจุดจบของเรื่องก่อนมักจะเป็นท่อนฮุคที่ดี ในการทำเช่นนี้ให้คิดถึงส่วนที่เต็มไปด้วยแอ็คชั่นที่สุดของเรื่อง จากนั้นเริ่มต้นด้วยส่วนนั้นค่ะ
3.วางโครงร่าง “ใคร” “อะไร” “เมื่อไหร่” “ที่ไหน”
ขั้นตอนของการเล่าเรื่อง ” ส่วนนี้คนส่วนใหญ่มองข้าม” หากคุณกำลังมองหาวิธีจัดระเบียบเรื่องราวของคุณให้ดีขึ้น
เริ่มจากเมื่อไหร่? ที่ไหน? และใคร? นำส่วนนั้นออกมาในประโยคแรก อะไร? และทำไม? จะถูกส่งในส่วนที่เหลือของเรื่อง
ตัวอย่างบางส่วน …
เมื่อตอนที่ฉันอายุ 6 ขวบพ่อของฉันจับได้ว่า ฉันแอบขโมยมาจากกระเป๋าสตางค์ของเขาในห้องนอน
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ฉันรู้สึกพลาดมาก ที่ไม่ได้รับโทรศัพท์ มารู้อีกทีเลยวันเวลาคุยงานกับลูกค้า VIP
4.ให้รายละเอียดให้ครบ จนถึงภาพฉากจบ ที่สวยงามผ่านเรื่องราวของคุณ
การสื่อสารที่ยอดเยี่ยมเกิดขึ้นเมื่อผู้พูดสามารถวาดภาพที่สดใสในใจของผู้ฟัง รายละเอียดที่คุณใส่ไว้ในเรื่องราวของคุณคือกุญแจสู่ความสำเร็จ รายละเอียดเหล่านี้ยังทำให้เนื้อหา น่าสนใจ น่าจดจำยิ่งขึ้น
ตัวอย่างที่ไม่สมบูรณ์
ทีมของเราทำงานในโครงการที่คล้ายกันเมื่อปีที่แล้ว เราทุกคนทำงานร่วมกันและหาทางออกที่ยอดเยี่ยม ดังนั้นการทำงานเป็นทีมจึงมีความสำคัญจบ
ตัวอย่างที่สมบูรณ์แบบดีกว่าในการให้รายละเอียดที่มากพอ
คือ ไม่ปล่อยให้ผู้ชมมีคำถามเพิ่มเติมในใจ ใครอยู่ในทีมของคุณ? ปัญหาคืออะไร? พวกเขาคิดวิธีแก้ปัญหาได้อย่างไร?
วิธีการแก้ปัญหาทำงานอย่างไร? มันคล้ายกับสิ่งที่เรากำลังเผชิญอยู่ตอนนี้อย่างไร? ให้รายละเอียดในสิ่งที่ผู้ชมต้องการจริงๆ คือสิ่งที่จับต้องได้มากกว่า
5. ขั้นตอนสุดท้าย คือบอกสิ่งที่ผู้ฟัง ผู้ชมต้องทำต่อ ( Call To Action )
ตัวอย่างเช่น
หลังจากที่ฟังจบแล้ว อย่าลืมกรอกรายละเอียดใบแสดงความคิดเห็น ส่งกลับมาให้กับทางเราด้วยนะคะ
ต้องการรับรายละเอียดเพิ่ม แอดไลน์ตามลิงค์ได้เลยค่ะ
สนใจร่วมรับข่าวสาร สแกน QR Code เข้าห้องเรียนรู้ออนไลน์ค่ะ
เป็นอย่างไรกันบ้างคะกับการฝึกเล่า เรื่องราว ( Storry Telling )
ที่จินเอามาแบ่งปันในบทความวันนี้ หวังว่าจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยนะค่ะ การเล่าเรื่องเป็นทักษะและทักษะแปลว่าฝึกได้
หมายความว่าต้องทำซ้ำ ต้องทำบ่อย ต้องฝึกทำจนชำนาญ เรียนรู้ อ่านและฟังอย่างเดียวไม่ได้ค่ะ ต้องลงมือทำด้วย
การเล่าเรื่องราว ไม่มีผิด ไม่มีถูก มันคือการสื่อสารให้คนตรงหน้าเข้าใจด้วยเนื้อหา และความตั้งใจ จริงใจด้วยค่ะ
การเล่าเรื่องวิธีที่ดีที่สุด
มองมุมส่วนตัวจินเอง และประสบการณ์ในการเขียน พูดหรือการเล่า เรื่องราว คือ การเล่นวิดีโอเรื่อง หรือตอนในหัวของเราในแบบ Storytelling… ง่ายๆ สไตล์ใครมัน
จากนั้นบอกผู้ชมว่าจินกำลังเห็นอะไร คิดอย่างไร รู้สึกแบบไหน และเปิดโอกาสให้ผู้ฟังได้แลกเปลี่ยน ไอเดียมุมมองความคิด ระหว่างเรากับผู้ฟังด้วยค่ะ
ขอบคุณแรงบันดาลใจจากบทความ
https://www.fearlesspresentations.com/the-5-steps-of-storytelling-how-to-tell-a-great-story/