Self Insight Exploration… ค้นหาตัวตนจากภายใน
การรู้จักลูกค้า… ถือว่าสำคัญมากๆ ในการทำธุรกิจ แต่กว่าจะไปถึงตรงนั้น โดยส่วนตัวผมคิดว่า ย้อนกลับมาเข้าใจตัวเองก่อนน่าจะเป็นเรื่องใหญ่ไม่แพ้กัน
สำหรับท่านที่ตามอ่านงานเขียนของผมมาเรื่อยๆ ในซีรีย์นี้ คงเจอคำถาม 4 ข้อที่ผมทิ้งเป็นการบ้านเอาไว้เมื่อคราวที่แล้ว… คำถามทั้ง 4 ประเด็นคือ
- กล้าทำงานฟรีมั๊ยครับ?
- กล้าเข้าสังคม พูดคุยพบเจอผู้คนมั๊ยครับ?
- ชอบการขายมั้ยครับ?
- ชอบความเสี่ยงมั๊ยครับ?
อย่างที่จั่วหัวไว้ว่า…Self Insight Exploration ก่อนจะไป Explore หรือค้นหาลูกค้าหรือตลาด เราควรหันกลับมา Explore ตัวเองให้เสร็จๆ กันก่อน… โดยเฉพาะตัวตนระดับ Insight ที่หลายคนเข้าใจว่าตัวเองไหว หรือทำได้
โดยส่วนตัวผมเชื่อว่าทุกท่านไหว และทำได้แน่ เพียงแต่การลงมือทำธุรกิจของท่าน ทำในอารมณ์ที่ต้องทำ หรือทำในภาวะที่คิดว่าควรทำ…
จะดีกว่ามั้ยถ้าท่านจะเริ่มธุรกิจทั้งที่ ขอให้อยู่ในภาวะที่ “ทำธุรกิจอันนี้แล้วดีต่อใจ”
ใช่ครับ! ผมกำลังพูดถึงการทำธุรกิจที่จะทำให้ท่าน พร้อมจะทุ่มเทเพื่อเป้าหมายถัดไป อย่างสนุกสนาน และเปี่ยมไปด้วยความเชื่อมั่น… อย่างสุดๆ
มาดูคำถามแรกกัน… ท่านยอมทำงานไม่รับค่าจ้างมั๊ยครับ?
จริงอยู่การทำธุรกิจ เนื้อแท้ก็คือ การงานอาชีพและรายได้ เช่นเดียวกับ ทำงานรับเงินเดือนที่เราทำงานแลกค่าจ้าง… เพียงแต่การทำธุรกิจ เราทำงานหวังกำไร
ประเด็นเรื่องนี้มันยากตรงที่… เมื่อท่านเริ่มทำธุรกิจ รายได้ของท่าน จะมาจากท่าน… จะไม่มีมาจากทางอื่น เพราะท่านมีนายจ้างเป็นตัวเอง… เขาถึงเรียกว่า Self-employed ไงหล่ะครับ
ท่านจึงควรไตร่ตรองเรื่องนี้ให้มาก และเตรียมตัวเตรียมใจ เตรียมแผนให้ตัวเองเรื่องรายได้ที่อาจจะหายไปช่วงหนึ่ง โดยเฉพาะท่านที่ทำงานประจำอยู่ก่อน… ถ้าคำถามนี้ทำท่านกังวล แม้เพียงเล็กน้อย การเริ่มธุรกิจใหม่แบบทำเป็นอาชีพเสริม อาจจะดีต่อใจกว่า… แต่ถ้าท่านไม่มีทางเลือก จงใช้เรื่องรายได้ที่รออยู่จากฝีมือท่านล้วนๆ เป็นแรงขับตรงเข้าหาเป้าหมายให้เร็วที่สุด
คำถามถัดมาครับ… กล้าเจอคนแปลกหน้าแค่ไหน เข้าสังคมแล้วเครียดมั๊ย และท่านรู้สึกยังไงเมื่ออยู่ในวงสนทนาต่างๆ
การทำธุรกิจ… ยังไงๆ ก็ต้องเจอผู้คนมากหน้าหลายตาแหละครับ ถ้าท่านชอบอยู่เงียบๆ หลบมุม เครียดน๊ะเวลาต้องเจอหรือคุยกับคนแปลกหน้า… ถ้าท่านอยากทำธุรกิจ ท่านอาจจะไม่เหมาะกับธุรกิจที่จะไปเจอคนเยอะๆ เช่นเอาสินค้าไปขาย… ไปถาม ไปทัก ไปคุยกับคนแปลกหน้า
ตัวผมเองบางโหมดก็ไม่ได้อยากเจอใคร… ก็หลบๆ เงียบๆ แต่บ่อยครั้งก็สามารถ ยืนเชียร์สินค้าหน้าบู๊ทในงานแสดงสินค้าก็ทำได้… ข่าวดีก็คือว่า การเข้าสังคมเป็นทักษะครับ และทักษะนั้นฝึกกันได้ เตรียมตัวก่อนได้
ที่จะบอกก็คือ ถ้าท่านอยากทำธุรกิจ และส่วนใหญ่ธุรกิจกิจก็ต้องคุยกับลูกค้า คุยกับพันธมิตร เป็นต้น… พาตัวเองออกไปเจอผู้คนเลยครับ พูดคุยกับคนที่ทำมาค้าขายอยู่ก่อน… ไปหาที่เรียน ที่ฝึกอบรม ที่จะทำให้ท่านได้ฝึกกับสังคมจริงๆ เพิ่มเครือข่ายและที่สำคัญ… เพิ่มความมั่นใจให้ตัวเอง
ประเด็นที่สาม… ท่านชอบการขายมั้ย…. เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่มาก… ธุรกิจกิจส่วนใหญ่ต้องขาย แม้แต่โปรแกรมเมอร์อิสระ ก็ยังต้องขายทักษะตัวเอง ต้องทำ Portfolios อัพเดทไว้ตลอด ต้องทำโปรไฟล์ใส่ LinkedIn เก็บไว้ ต้องอวดงานและนายจ้างขึ้น Facebook เสมอๆ ถ้าทำได้… ทั้งหมดคือการตลาดและการขาย… ธุรกิจทุกธุรกิจ จะมีแนวทางการขายและการตลาดของตัวเอง ทุกๆ อาชีพ ก็มีแนวทางการขายและการตลาดเช่นกัน
…แม้แต่ทำงานรับเงินเดือน ท่านก็ต้องขายฝีมือแรงงานให้นายจ้างเจ้าประจำเช่นกัน
ประเด็นสุดท้ายเป็นเรื่องความเสี่ยงครับ… ถามตัวเองว่า ธุรกิจที่ท่านอยากทำ เสี่ยงเรื่องอะไรบ้าง… และในสถานการณ์เลวร้ายสุดๆ ท่านรับความเสี่ยงแบบนั้นไหวมั๊ย และจะหาทางออกยังไง
ทุกๆ ธุรกิจมีความเสี่ยงเสมอ… ข่าวดีคือ ถ้าท่านประเมินความเสี่ยงรอบด้านแล้ว… ย้ำว่ารอบด้านแล้ว… และมีคำตอบให้ตัวเองทุกสถานการณ์
ยินดีด้วยครับที่ท่านไม่กลัวความเสี่ยงจนเกินไป… และผมคิดว่าท่านพร้อมลุยแล้วหล่ะ
อย่าคิดเยอะ ถ้าคำตอบสี่ประเด็นนี้เป็นบวกสุดๆ กับท่าน จงรีบทำ… ตรงนี้ในวงการ Startup เขาจะชวนกัน Fail Fast, Fail Forward… แปลว่ารีบล้มให้ไว ล้มไปข้างหน้า… ซึ่งผมชอบ Mindset นี้มาก
เพราะท่านต้องล้มลุกคลุกคลานหลายๆ เรื่องตอนเริ่มอะไรใหม่ๆ… ซึ่งตรงนี้ไม่เกี่ยวกับเรื่องพร้อมไม่พร้อม หรือแม้แต่ทุนหนา พวกเยอะ… ตอนหน้ามาคุยกันเรื่อง Fail Fast, Fail Forward
ขอบคุณแรงบันดาลใจ https://medium.com/
Pingback: 10 เหตุผลที่คนเงียบๆประสบความสำเร็จ